จงให้คำนิยามของคำศัพท์ต่อไปนี้
1.1. Creative Economy หมายถึง แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ (Knowledge)
การศึกษา การสร้างสรรค์งาน (Creativity) และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา
(Intellectual property) ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม
การสั่งสมความรู้ของสังคม และเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่
1.2. Search Engine Marketing หมายถึง การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาทางอินเทอร์เน็ต สามารถทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายค้นหาเราได้จากอินเทอร์เน็ต
1.3. Fampage หมายถึง เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นและดูแลโดยแฟน ๆ ผู้ชื่นชอบที่สนใจในคนดัง สิ่งของ หรือปรากฏการณ์ทางสังคม ซึ่งอาจหมายถึง หนังสือ รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ การ์ตูน วงดนตรี ทีมกีฬา เกม
1.4. One Stop Service หมายถึง การนำงานที่ให้บริการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง มารวมให้อยู่ที่สถานที่เดียวกัน ในลักษณะ้ชื่อมโยงต่อกัน เพื่อให้การบริการนั้นๆ รวดเร็วขึ้น
1.5. KM (Knowledge Management) หมายถึง เครื่องมือเพื่อใช้ในการบรรลุเป้าหมายอย่าง
น้อย 3 ประการไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ บรรลุเป้าหมายของงาน
บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน
และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
โดยการจัดการให้มีการค้นพบความรู้ ความชำนาญที่แฝงเร้นในตัวคน
หาทางนำออกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ตกแต่งให้ง่ายต่อการใช้สอยและมีประโยชน์เพิ่มขึ้น
1.6. Business Model หมายถึง วิธีการหรือแผนการดำเนินงานเพื่อประยุกต์การทำงาน การใช้ทรัพยากรของบริษัทอย่างเต็มที่ ก่อให้เกิดผลกำไรสูงสุดและเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ
1.7. GDX (Government Data Exchange) หมายถึง โครงการของรัฐบาลที่มีจุดประสงค์เพื่อให้บริการประชาชน สามารถดำเนินงานต่างๆให้เสร็จสิ้น ณ ที่เดียว ด้วยการเชื่อมต่อระบบการจัดการขอมูลระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ
1.8. Cloud Computing หมายถึง บริการทางอินเตอร์เน็ตที่เป็นแบบการรวบรวมทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นมาเชื่อมโยงไว้ด้วยกัน โดยมีการทำงานสอดประสานกันแบบรวมศูนย์ มีการดึงข้อมูลและฝากข้อมูล การประมวลผลมากจากศูนย์กลางแหล่งใหญ่เดียวกัน
1.9. Blog หมายถึง เว็บไซต์ที่เจ้าของ หรือ Blogger สามารถบันทึก อัพเดทเรื่องราวลงเว็บได้ตลอดเวลา สามารถสร้างได้เองง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML แค่มีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ก็พอ โดยเจ้าของและผู้ใช้ง่ายสามารถพูดคุย ตอบโต้ กันได้ ด้วยการโพสต์และคอมเมนท์
1.10. Expert System หมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ ที่จำลองการตัดสินใจของมนุษย์
ผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง
โดยใช้ความรู้และการสรุปเหตุผลเชิงอนุมาน (inference)
ในการแก้ปัญหายากๆ ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ
ระบบผู้เชี่ยวชาญได้ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้งานในระบบต่างๆ
อย่างแพร่หลาย
2. ให้นักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้
2.1. ยกตัวอย่างระบบปฎิบัติการที่นักศึกษารู้จักมา 3 ระบบปฎิบัติการ พร้อมบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละระบบปฎิบัติการ
Ubuntu Linux
- ข้อดี สามารถเปิดได้เป็นเดือนๆ การบริหารจัดการไฟล์ดี มีความสวยงาม ปรับแต่งได้อย่างอิสระ Desktop Effect มีความสวยงามกว่าระบบปฎิบัติการอื่นๆมาก
- ข้อเสีย การใช้งานพื้นที่หน่อยความจำค่อนข้างสิ้นเปลือง
Mac
-ข้อดี ติดตั้งโปรแกรมง่าย มีความเสถียรสูง ไม่มีปัญหาหน่วง ค้าง เพราะโปแกรมสั่งปิดได้เรยเมื่อมีปัญหา
-ข้อเสีย ช้ากว่าระบบปฎิบัติการตัวอื่นนิดหน่อย
Windows
-ข้อดี ใช้งานง่าย เสถียร มีราคาถูก
-ข้อเสีย ใช้พื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างมาก
2.2. ยกตัวอย่างโปรแกรม ด้านการจัดการฐานข้อมูลที่นักศึกษารู้จักมา 3 โปรแกรม พร้อมอธิบายคุณสมบัติเด่นๆ ของแต่ละตัว
- Access นับเป็นโปรแกรมที่นิยมใช้กันมากในขณะนี้ โดยเฉพาะในระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่
- FoxPro เป็นโปรแกรม ด้านการจัดการข้อมูลที่มีผู้ใช้มากที่สุด เนื่องจากใช้งานง่าย
- SQL เป็นโปรแกรมที่มีโครงสร้างภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพการทำงานสูง สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้โดยคำสั่งเพียงไม่กี่คำสั่ง
2.3. ยกตัวอย่างโปรแกรม ประเภท Office ที่นักศึกษารู้จักมา 2 โปรแกรม ว่าแต่ละตัวมีโปรแกรมย่อยๆ อะไร พร้อมอธิบายคุณสมบัติเด่นๆ
- Microsoft Word สามารถสร้างตารางที่ซับซ้อนอย่างไรก็ได้ มีความรวดเร็วในการสร้างเอกสาร จดหมาย สร้างเอกสารให้ใช้งานในอินเทอร์เน็ตได้ง่าย สามารถแทรกรูปภาพได้ สามารถตีกรอบ สร้างลายน้ำได้
- Microsoft Excel มีความสามารถในการคำนวน สามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆได้ เช่นฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการเงิน สามารถตกแต่งตารางข้อมูล เรียงลำดับข้อมูล พิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร และแปลงข้อมูลในตารางให้เป็นเว็บเพจเพื่อนำไปแสดงในโอมเพจ
2.4. ยกตัวอย่างโปรแกรมที่นักศึกษารู้จักและชอบใช้งานบ่อยมา 5 โปรแกรม
-Heroes of Newerth.
-Garena+
-LINE
-FACEBOOK
-Youtube
การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต